การทำไม้ในประเทศไทยเริ่มจากการขยายอำนาจของประเทศอังกฤษ โดยบริษัทอีส เอเชียติก (East Asiatic Co.Ltd) การจัดการป่าไม้เริ่มจากยุคกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น อยู่ในความควบคุม ของเจ้าผู้ครองนคร ตามหัวเหมืองต่าง ๆ เจ้าผู้ครองนครจึงเป็นผู้อนุญาต และจัดเก็บเงินรายได้ จากการทำไม้เรื่อยมาจนถึงสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรง โปรดเกล้าให้สถาปนากรมป่าไม้ ในปีพุทธศักราช ๒๔๓๙ ให้มีผู้รับผิดชอบดูแลกิจการป่าไม้ ของประเทศไทย |
||
กิจการป่าไม้ของกรมป่าไม้มุ่งเน้นการทำไม้เป็นสำคัญ ทำให้กิจการส่วนใหญ่จึงมีอยู่เฉพาะภาคเหนือตอนบน ของประเทศเนื่องจากอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรป่าไม้ อาคารที่ทำการกรมป่าไม้หลังแรกจึงตั้งอยู่ที่จังหวัด เชียงใหม่ซึ่งปัจจุบันใช้เป็น ที่ทำการของสำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑๖หรือสำนักงานป่าไม้เขตเชียงใหม่ (เดิม) การบริหารกรมป่าไม้ในขณะนั้นมีสาขาภาคอยู่ ๓ ภาคคือป่าไม้ภาคเชียงใหม่ป่าไม้ภาคลำปางและ ป่าไม้ภาคนครสวรรค์ |
||
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๔๔ กิจการป่าไม้ได้ขยายเพิ่มขึ้นอีก ๔ ภาคกล่าวคือป่าไม้ภาคพิษณุโลกป่าไม้ ในปี พ.ศ.๒๔๘๓ มีการปรับปรุงการบริหารกรมป่าไม้ใหม่จัดตั้งสำนักงานป่าไม้เขตทั่วประเทศรวม |
||
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๐๖ นายรัตน์ พนมขวัญผู้รักษาราชการแทนป่าไม้เขตแพร่ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าสำนักงานป่าไม้เขตแพร่ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ลำน้ำยมเมื่อฤดูน้ำหลากกระแสน้ำมักกัดเซาะตลิ่ง เรื่อยๆหากปล่อยไว้เกรงว่าจะกัดเซาะถึงตัวอาคารสำนักงานประกอบกับในฤดูน้ำหลากมักเกิด อุทกภัยน้ำท่วมบริเวณอาคารสำนักงานอยู่เสมอจึงเสนอกรมป่าไม้ให้ย้ายที่ทำการไปตั้งที่แห่ง ใหม่กรมป่าไม้จึงอนุญาตให้จัดซื้อที่ดินแห่งใหม่เพื่อตั้งสำนักงานป่าไม้เขตแพร่ ในท้องที่ตำบลป่าแมต อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ บนเนื้อที่ ๔๕ ไร่และจัดสรรเงินงบประมาณ ให้ก่อสร้างอาคาร ได้ทำการก่อ สร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๑๕ และเปิดเป็นที่ทำการ ป่าไม้เขตแพร่แห่งใหม่ |
||
เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๑๕ การบริหารงานในรูปแบบสำนักงานป่าไม้เขตแพร่ได้ดำเนินการเรื่อยมา จนกระทั่ง ในวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๔๕ ได้มีพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหารและอำนาจหน้าที่บางส่วน ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวงทบวงกรม พ.ศ.๒๕๔๕ และกฎกระทรวงแบ่งส่วน ราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงทำให้สำนักงานป่าไม้เขตแพร่ กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โอนกิจการบริหารและอำนาจหน้าที่ไปเป็นสำนักบริหารจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ท ี่๑๓ สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีพื้นที่รับผิดชอบจังหวัดแพร่และจังหวัดน่าน ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๔๘ ได้ปรับเปลี่ยน การบริหารโดยเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑๓ และเพิ่มพื้นที่รับผิดชอบเข้ามาอีก ๑ จังหวัด คือ จังหวัดลำปาง |
||
โดยมีหน้าที่รับผิดชอบดังนี้ ๑. จัดทำแผนบริหารจัดการป่าอนุรักษ์ในเขตป่าพื้นที่อนุรักษ์ให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการหลัก และนโยบายของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ๒. ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ใน ลักษณะงานสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า งานอุทยานแห่งชาติ งานอนุรักษ์พื้นที่ต้นน้ำลำธาร งานจัดการไฟป่า การป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ๓. สนับสนุนการดำเนินการเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรความหลาก หลายทางชีวภาพ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และงานด้านกิจกรรมชุมชนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ๔. ปฏิบัติงานร่วมกันหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือที่ ได้รับมอบหมาย |
||